UFABETWIN วิน สกัลลี่ : ชายผู้ทำงานเดิมต่อเนื่อง 67 ปีเพราะคำว่า “รัก”

ในยุคที่ผู้คนเปลี่ยนงานอย่างง่ายดายและบ่อยครั้ง จนคำว่า กลายเป็นคำที่ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ คงไม่แปลกนักที่หลายคนจะมองว่า การทำงานอยู่ ณ ที่ทำงานเดิม ตำแหน่งเดิมนับสิบปีเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด

แต่สำหรับ วิน สกัลลี่ การทำงานเดิมของเขาไม่ใช่แค่ 10 หรือ 20 ปี แต่เป็นระยะเวลาถึง 67 ปี ที่สำคัญ นี่คืองานแรก งานเดียว และงานสุดท้ายของเขาด้วย

เหตุใด วิน สกัลลี่ ถึงสามารถทำหน้าที่ “ผู้บรรยายเกมเบสบอลของทีมดอดเจอร์ส” ได้ยาวนานขนาดนั้น

เริ่มต้นจากความรัก

มีคำกล่าวที่ว่า “ถ้าหากเราทำงานที่เรารัก เราจะรู้สึกเหมือนไม่ได้ทำงานตลอดชีวิต” ซึ่งในกรณีของ วิน สกัลลี่

เพราะ “ผู้บรรยายกีฬา” คืองานที่สกัลลี่ใฝ่ฝัน และสิ่งนั้นถูกบันทึกไว้ในเรียงความส่งอาจารย์ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 8 ขวบ สมัยเรียนเพียงเกรด 3 (ประถมศึกษาปีที่ 3 หากเทียบกับไทย) เลยทีเดียว

 

“เท่าที่ผมจำความได้นะ สมัยเด็ก ๆ ที่บ้านเรามีวิทยุเก่า ๆ อยู่เครื่องนึง และสิ่งเดียวที่เหมือนจะออกอากาศบนวิทยุสมัยนั้นคือการบรรยายการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัย” เจ้าตัวเล่าถึงเรื่องราวสมัยเด็ก

“ตอนนั้นสิ่งที่ผมชอบทำคือคลานไปนอนใต้แท่นวางวิทยุ เอาหมอนไปหนุนนอนเลย บางวันอาจมีของกินอย่างแครกเกอร์กับนมด้วย แล้วก็นั่งฟังบรรยายเกมทั้งวัน แม้จะเป็นเกมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเด็กจากย่านวอชิงตันไฮท์ส รัฐนิวยอร์ก อย่างผมก็ตาม แต่ผมก็ยังฟัง ทีนี้ด้วยความที่ผมมุดไปนอนใต้วิทยุ หัวของผมเลยอยู่ใต้ลำโพงพอดี เสียงผู้ชมในสนามนี่คุณเอ๊ย เซ็งแซ่เหมือนน้ำจากหัวฝักบัว มันทำผมขนลุกเลยล่ะ”

อย่างไรก็ตาม ณ ช่วงเวลาเดียวกันสกัลลี่ก็โอบรับกีฬาอีกชนิดเข้าสู่หัวใจ นั่นคือ เบสบอล โดยจุดเริ่มต้นคือศึก เวิลด์ซีรีส์ เกมชิงแชมป์ประจำฤดูกาลของ ระหว่าง นิวยอร์ก แยงกีส์ กับ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส (ซานฟรานซิสโก ไจแอนท์ส ปัจจุบัน)

แม้เป็นศึกของสองทีมจากเมืองเดียวกัน แต่ความเห็นใจในความพ่ายแพ้ของ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ทำให้สกัลลี่สมัครใจเชียร์ทีมนี้ ยิ่งบวกกับการที่ โปโล กราวด์ส รังเหย้า ณ เวลานั้นของไจแอนท์สอยู่ในย่าน วอชิงตัน ไฮท์ส แถมยังเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬาตำรวจนิวยอร์กและองค์กรเยาวชนคาทอลิก ก็ยิ่งอำนวยความสะดวกให้สกัลลี่ได้เข้าชมเกมของไจแอนท์สแบบฟรี ๆ จนเขาถึงกับยอมรับเองว่า “เป็นแฟนไจแอนท์สตัวยง”

ด้วยความรักในกีฬาเบสบอลและความฝันที่อยากเป็นผู้บรรยายกีฬา ที่สุดแล้วฝันของเขาก็กลายเป็นความจริง … แม้จะไม่ใช่กับทีมรักในวัยเด็กก็ตาม

พี่เลี้ยงจอมโหด

หลังเข้ารับราชการทหารในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา 2 ปี วิน สกัลลี่ เริ่มต้นตามรอยความฝันของเขาด้วยการเข้าเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม พร้อมกับเป็นนักกีฬาเบสบอลของมหาวิทยาลัยไปด้วย

 

UFABETWIN

 

เมื่อสำเร็จการศึกษา เจ้าตัวก็เหมือนกับเด็กจบใหม่ที่ต้องร่อนจดหมายสมัครงานไปตามที่ต่าง ๆ พร้อมแนบผลงานการพากย์การแข่งขันให้กับทีมกีฬาของมหาวิทยาลัยไปด้วย ทว่าจากกว่า 150 สถานีวิทยุในแถบชายฝั่งตะวันออกของประเทศ กลับมีเพียงแค่เจ้าเดียวเท่านั้นที่เรียกเขาไปสัมภาษณ์ นั่นคือ ที่มี เรด บาร์เบอร์ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกีฬา ณ เวลานั้น ซึ่งการสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี แต่ ณ เวลานั้นยังไม่มีตำแหน่งว่าง

ทว่าบทคนจะได้งานบางครั้งสถานการณ์ก็เอื้อหนุน บาร์เบอร์ต้องการคนไปรายงานผลอเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัยอย่างเร่งด่วน เขาจึงโทรหาสกัลลี่ให้ไปทำหน้าที่เสมือนเป็นการทดลองงานไปในตัว และสกัลลี่ก็รีบเดินทางไปทำข่าวที่ เฟนเวย์ พาร์ก สังเวียนแข่งขันในเมืองบอสตันทันที แม้จะต้องรายงานข่าวจากบนหลังคาสนามแบบต้องเผชิญกับสภาพลมแรงตลอดการแข่งขันเพราะที่นั่งในโควตาผู้สื่อข่าวเต็มก็ตาม ซึ่งเมื่อบาร์เบอร์รับทราบเรื่องราวทั้งหมดเขาก็ประทับใจเป็นอย่างมาก

กระทั่งในปี 1950 โอกาสครั้งสำคัญก็มาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อ เออร์นี่ ฮาร์เวลล์ ผู้บรรยายการแข่งขันของ บรูคลิน ดอดเจอร์ส ลาออกไปรับงานในตำแหน่งเดียวกันให้กับ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส เรด บาร์เบอร์ ที่รับหน้าที่เป็นนักพากย์ตัวหลักให้กับทีมดอดเจอร์สด้วยเช่นกันจึงตัดสินใจดึงตัว วิน สกัลลี่ มารับหน้าที่แทน

นี่คือโอกาสที่พุ่งมาหาสกัลลี่อย่างไม่ทันตั้งตัว กับการได้พากย์การแข่งขันให้กับหนึ่งในทีมเบสบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เขาจะเจอต่อจากนี้โหดไม่แพ้งานที่ต้องทำเลย เพราะ เรด บาร์เบอร์ ถือเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ที่ต้องการให้งานทุกอย่างเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ เขาเค้นความสามารถของตัวเองในการทำงานถึงขีดสุดและต้องการสิ่งนั้นจากเพื่อนร่วมงานเช่นกัน

ในการทำงานเกมแรก บาร์เบอร์แจกแจงงานอย่างชัดเจนว่าสกัลลี่จะเป็นนักพากย์ไม้สาม ซึ่งมีหน้าที่พากย์ในสิ่งที่ตัวของบาร์เบอร์ นักพากย์หลัก และ คอนนี่ เดสมอนด์ นักพากย์ไม้สอง ไม่ต้องการทำ แต่บาร์เบอร์จะจับตาอยู่ตลอด หากสกัลลี่บรรยายข้อมูลผิดแม้แต่นิดเดียว เขาจะพูดแทรกแก้ให้ทุกคนได้ยินแบบสด ๆ ทันที ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าชวนให้เสียหน้าขนาดไหน

ไม่เพียงเท่านั้น การจับตาดูของบาร์เบอร์ยังรวมถึงสิ่งที่ทำนอกฉากด้วย เพราะเมื่อเขาเห็นสกัลลี่จิบเบียร์ก่อนการทำงานก็รีบเตือนทันทีว่า “อย่าทำแบบนี้ให้เห็นอีก” แม้อันที่จริงบาร์เบอร์เองก็เป็นคอเบียร์ตัวยง แต่เขาแยกการดื่มให้อยู่นอกเวลาทำงานอย่างชัดเจน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจเป็นต้นเหตุของความผิดพลาดที่เขาไม่ต้องการได้ทุกเมื่อกับการแข่งขันเบสบอลที่เกมหนึ่งลากยาวหลายชั่วโมง

การสอนงานของ เรด บาร์เบอร์ นั้นเรียกได้ว่าโหดเข้าขั้นเลยทีเดียว ตัวอย่างอีกครั้งเกิดขึ้นเมื่อสกัลลี่บอกกับบาร์เบอร์ว่ามีผู้เล่นตัวจริงคนหนึ่งของดอดเจอร์สที่จะไม่อยู่ในรายชื่อทีม เมื่อบาร์เบอร์ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น สกัลลี่ไม่สามารถตอบได้ ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจอย่างหนัก และสกัลลี่ก็รู้ทันทีว่าหน้าที่ของเขาคือการหาคำตอบให้ได้ว่าทำไม เขาจึงต้องรีบเข้าสนามแข่งเร็วกว่าเดิมเพื่อไปหาคำตอบจากผู้จัดการทีมและผู้เล่นในเรื่องต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการพากย์เกมให้ได้

เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์อย่างบาร์เบอร์กับลูกศิษย์อย่างสกัลลี่นั้นไม่ถึงกับราบรื่นนัก แต่ถึงกระนั้น วิน สกัลลี่ ก็ให้เครดิต เรด บาร์เบอร์ เป็นอย่างมากที่ปลูกฝังและสั่งสอนเขาจนเป็นผู้บรรยายกีฬาที่ดีและเป็นมืออาชีพ

“สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรดในฐานะอาจารย์คือความจริงที่ว่าเขาใส่ใจ สำหรับเขาผมไม่ใช่แค่เด็กหน้าใหม่ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน เพราะเขาต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของผมเป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งบางครั้งเขาก็ต้องฟาดแส้ใส่หากผมทำตัวออกนอกลู่นอกทางเช่นกัน”

 

UFABETWIN

 

ตำนานผู้ไม่ขอรับคำชมเชย

แม้ศิษย์อย่างสกัลลี่กับอาจารย์อย่างบาร์เบอร์จะร่วมงานบนโต๊ะบรรยายเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น หลังบาร์เบอร์มีปัญหากับทีมดอดเจอร์สในเรื่องของค่าจ้าง ทำให้เจ้าตัวเทงานพากย์ศึกเวิลด์ซีรีส์ระหว่าง บรูคลิน ดอดเจอร์ส กับ นิวยอร์ก แยงกีส์ ในปี 1952 แต่มันกลายมาเป็นเวลาฉายแสงของสกัลลี่ เมื่อทีมดอดเจอร์สเสนองานดังกล่าวให้กับเขา

และแม้ไม่มีความจำเป็นแต่สกัลลี่ก็ขอคำอนุญาตจากบาร์เบอร์ในการรับงานนี้ ซึ่งทำให้อาจารย์ประทับใจอย่างมาก และทำให้เขาที่เซ็นสัญญาย้ายไปรับงานเดียวกันให้ทีมแยงกีส์ในซีซั่นถัดไปตอบตกลง ส่งต่องานให้ลูกศิษย์คนนี้อย่างไม่ลังเล

 

นับตั้งแต่ปี 1953 เป็นต้นมา วิน สกัลลี่ ได้กลายเป็น “เสียงของดอดเจอร์ส” กับการพากย์ทุกเกมในบ้าน กับบางเกมเยือน ด้วยประโยคเปิดตัวที่คุ้นหู … “สวัสดีครับ สวัสดีตอนบ่าย/ตอนค่ำกับพวกคุณทุกคน ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด ได้เวลาเบสบอลของทีมดอดเจอร์สแล้ว”

แน่นอนว่าเขาผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ของทีมดอดเจอร์สในการพากย์เองมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เวิลด์ซีรีส์ครั้งแรกของแฟรนไชส์ในปี 1955 และหลังจากนั้นอีก 5 ครั้งในปี 1959, 1963, 1965, 1981และ 1988 ตลอดจนการย้ายเมืองจาก นิวยอร์ก ไปสู่ ลอสแอนเจลิส

ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อทีมจาก บรูคลิน ดอดเจอร์ส เป็น แอลเอ ดอดเจอร์ส ในปี 1958 เช่นเดียวกับการทำลายสถิติตีโฮมรันสูงสุดตลอดกาลของ แฮงก์ แอรอน เมื่อปี 1974 ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่สกัลลี่ไปพากย์เกมเยือนที่เมืองแอตแลนตา รวมถึงเป็นสักขีพยานการแจ้งเกิดจนกลายเป็นสตาร์ดังอีกหลายคน ทั้ง พี วี รีซ, แจ็คกี้ โรบินสัน ชายผู้ทลายกำแพงสีผิวในวงการเบสบอล จนถึงดาวดังแห่งยุคปัจจุบันอย่าง เคลย์ตัน เคอร์ชอว์

คำถามคือ วิน สกัลลี่ สามารถงานเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานานเทียบเท่าชีวิตคนสักคนได้อย่างไร ?

“ผมคิดว่านะ เมื่อคุณได้ทำในสิ่งที่คุณชอบ สิ่งนั้นจะผ่านไปรวดเร็วเสมอ แต่คีย์เวิร์ดสำคัญในเรื่องนี้ของผมคือ ‘ความปลื้มปิติและรู้สึกขอบคุณ’ ที่ได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำมาตั้งแต่เด็ก และผมยังได้รับอนุญาตให้ทำสิ่งนั้นต่อไปเรื่อย ๆ”

“แต่ถ้าถามว่ามีวันที่คุณรู้สึกไม่อยากไปทำงานไหม ? มันก็มีบ้างบางวัน ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นก็ควรไปพักผ่อนสักหน่อย ไปเดินเขาก็ได้นะ”

แม้เจ้าตัวจะบอกว่าจะทำงานนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ยังสนุกและสุขภาพดี แต่ที่สุดแล้ว “บัญชาจากพระเจ้า” ก็ทำให้สกัลลี่ตัดสินใจเกษียณตัวเองหลังเบสบอล MLB ฤดูกาล 2016 จบลง และเป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่ เพราะแม้ดอดเจอร์สจะเข้าสู่ศึกเวิลด์ซีรีส์อีก 2 ครั้งในปี 2017 และ 2020 แต่สกัลลี่ก็ไม่กลับมารับหน้าที่อีกแม้จะมีเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ ของทีมจำนวนไม่น้อย ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็มารับงานพากย์สารคดีบันทึกเส้นทางสู่แชมป์เวิลด์ซีรีส์ฤดูกาล 2020 ให้กับดอดเจอร์ส

และบัญชาจากพระเจ้าก็เรียกตัว วิน สกัลลี่ ขึ้นไปพากย์กีฬายังอีกโลก เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2022 ด้วยวัย 94 ปี ปิดฉากตำนานนักพากย์เบสบอลด้วยเสียงสรรเสริญ

“เขามีเสียงและวิธีการเล่าที่ทำให้คุณคิดเสมอว่าเขาไม่ได้พากย์แต่พูดอยู่กับคุณ คุณคนเดียวเท่านั้น วินเป็นคนที่น่ารักทั้งตอนที่อยู่และออกจากโต๊ะบรรยาย อีกทั้งยังเป็นที่รักของครอบครัวดอดเจอร์สทุกคน” แมจิค จอห์นสัน ตำนานนักบาสเกตบอลของ แอลเอ เลเกอร์ส ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของร่วมของ แอลเอ ดอดเจอร์ส ยกย่องสกัลลี่หลังเขาจากโลกนี้ไป

หากคุณมีโอกาสไปที่ ดอดเจอร์ส สเตเดียม คุณจะเห็นว่าแบนเนอร์ชื่อของ วิน สกัลลี่ ถูกนำไปแขวนร่วมกับตำนานอย่าง พี วี รีซ และ แจ็คกี้ โรบินสัน ขณะที่หลายคนยกย่องให้เขาเป็นสมาชิกที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของทีมดอดเจอร์สเลยทีเดียว

ทว่าคำยกย่องต่าง ๆ นานากลับเป็นสิ่งที่สกัลลี่ไม่ขอรับไว้ เพราะเขาก็แค่ทำในสิ่งที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะทำ

“กับคำยกย่องนั้น มันเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เลยนะ แต่มันไม่มีความหมายใด ๆ สำหรับผมเลย เพราะที่สุดแล้วเราทุกคนล้วนเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของโลกที่กว้างใหญ่เท่านั้นเอง อย่าคิดว่าเราสำคัญขนาดนั้นเลยครับ”

UFABETWIN

ข้อความนี้ถูกเขียนใน ข่าวกีฬา คั่นหน้า ลิงก์ถาวร